โดย เอมอร คชเสนี
ติดตามข่าวการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 หรือที่เดิมเรียกกันว่าไข้หวัดใหญ่เม็กซิโก แล้วต้องบอกว่า อย่าตื่นตระหนก แต่ก็ไม่ควรประมาทนะคะ วันนี้มาเรียนรู้วิธีการป้องกันตัวให้ปลอดภัยจากเจ้าไวรัสวายร้ายตัวนี้ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในพื้นที่เสี่ยงค่ะ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ติดต่อได้เช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่ในคนโดยทั่วไป คือเชื้อจะอยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย และแพร่ไปยังผู้อื่นโดยการไอหรือจาม การรับประทานอาหารร่วมช้อนและภาชนะ หรือติดจากการสัมผัสมือและสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ และเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและตา เช่น การแคะจมูก การขยี้ตา วิธีหนึ่งซึ่งจะช่วยป้องกันทั้งการแพร่เชื้อและการติดเชื้อได้ก็คือ การใช้หน้ากากอนามัย และการล้างมือบ่อยๆ
หน้ากากอนามัย การไอ จามแต่ละครั้งจะทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายออกไปได้ไกลถึง 3 ฟุต และมีชีวิตลอยปะปนอยู่ในอากาศ ทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดมีโอกาสได้รับเชื้อ จากงานวิจัยขององค์การอนามัยโลกพบว่า การใส่หน้ากากอนามัยสามารถลดการแพร่กระจายของอณูเล็กๆ ที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนได้ถึงร้อยละ 80 ควรใส่หน้ากากอนามัยเมื่อจำเป็นต้องออกไปในที่ชุมชนหรือต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่นในที่สาธารณะ เช่น ห้องเรียน ห้องทำงาน ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ โรงแรม โรงพยาบาล รถโดยสาร เครื่องบิน โดยเฉพาะในห้องปรับอากาศ ฯลฯ แต่ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่คนเดียว หน้ากากอนามัยที่เหมาะจะใช้สำหรับการป้องกันเชื้อไวรัส ได้แก่ หน้ากากอนามัยชนิด N95 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคได้ถึง 0.3 ไมครอน หรือ surgical mask ซึ่งราคาจะถูกลงมา สามารถกรองอนุภาคได้ 5 ไมครอน ยกตัวอย่างขนาดของไวรัสโรค SARS จะเป็นอนุภาคเล็กที่มีขนาด 5 ไมครอน อย่างไรก็ตาม อาจพบปัญหาจากการใช้หน้ากากอนามัยชนิด N95 ได้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืด โรคปอดและทางเดินหายใจ และหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากลมหายใจจะผ่านเข้าออกได้ยากขึ้นเนื่องจากแรงต้านภายใน นอกจากนี้ หน้ากากอนามัยชนิด N95 ออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่ หากนำมาให้เด็กใช้ ต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ คำแนะนำในการใช้หน้ากากอนามัยในพื้นที่เสี่ยง ก็คือ - ล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาดก่อนใส่หน้ากากทุกครั้ง - สังเกตด้านนอกและด้านในของหน้ากากให้ชัดเจน - ข้อสำคัญคือเวลาใส่หน้ากาก ต้องให้กระชับพอดีกับใบหน้า และทดลองหายใจเข้าออกให้เป็นจังหวะหายใจตามปกติ - ไม่ควรนำหน้ากากที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำอย่างเด็ดขาด - ไม่แนะนำให้ใช้หน้ากากอนามัยชนิดกระดาษ เนื่องจากไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสได้ - พิจารณาใช้หน้ากากอนามัยเมื่อเห็นสมควร หรือคิดว่ามีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ
ล้างมือบ่อยๆ หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ และไม่ใช้มือแคะจมูกหรือขยี้ตา จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายและการติดต่อของโรคได้มากเช่นกัน เพราะมือเป็นตัวกลางนำเชื้อโรคไปสู่ผู้อื่นและรับเชื้อมาสู่ตัวเอง ควรทำความสะอาดมือหลังจากการไอ จาม และเมื่อต้องสัมผัสกับเครื่องใช้สาธารณะ เช่น ที่จับรถเข็นในซูเปอร์มาร์เก็ต เมาส์ในอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ราวรถประจำทาง ลูกบิดประตู ปุ่มลิฟต์ ราวบันได เป็นต้น หากไม่สามารถล้างมือได้ทุกครั้ง อาจหาซื้อเจลแอลกอฮอล์พกติดตัวไว้ ใช้ทำความสะอาดมือโดยไม่ต้องล้างออก แอลกอฮอล์เจลมีประสิทธิภาพฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้เกือบ 1,000 เท่า โดยใช้เวลาเพียง 15 วินาที ขณะที่น้ำกับสบู่ฆ่าได้ประมาณ 100 เท่า โดยต้องล้างอย่างน้อย 1 นาที อย่างไรก็ตาม หากมือเปื้อนสิ่งสกปรก เช่น คราบอาหาร หรือคราบสกปรกต่างๆ จะล้างไม่ออกด้วยแอลกอฮอล์เจล ต้องล้างด้วยน้ำกับสบู่เท่านั้น แต่หากไม่มีน้ำและสบู่ การล้างมือด้วยเจลล้างมือก็ยังดีกว่าไม่ล้างเสียเลย ควรระวังไม่ให้เจลล้างมือถูกผิวหนังที่เป็นเยื่อบุต่างๆ หรือผิวหนังที่บอบบาง เช่น ผิวที่เป็นแผล หรือตา เพราะจะทำให้ระคายเคืองได้ อีกปัญหาหนึ่งที่พบได้คือ ใช้แล้วอาจทำให้ผิวแห้งเนื่องจากองค์ประกอบส่วนใหญ่ของเจลล้างมือคือแอลกอฮอล์ ผู้ผลิตจึงแก้ปัญหานี้ด้วยการเติมมอยส์เจอไรเซอร์ลงไป นอกจากการใช้หน้ากากอนามัยและการล้างมือบ่อยๆ แล้ว วิธีดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ก็คือ ไม่ทักทายกันด้วยการจูบหรือสัมผัสมือ ไม่รับประทานอาหารร่วมช้อนและภาชนะเดียวกันกับผู้อื่น จัดสถานที่อยู่อาศัยและที่ทำงานให้อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชนหรือสถานที่แออัด รักษาความสะอาดของสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์ รักษาสุขภาพให้แข็งแรงโดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักผลไม้ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ที่มา: Mother&Care
หน้ากากอนามัย การไอ จามแต่ละครั้งจะทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายออกไปได้ไกลถึง 3 ฟุต และมีชีวิตลอยปะปนอยู่ในอากาศ ทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดมีโอกาสได้รับเชื้อ จากงานวิจัยขององค์การอนามัยโลกพบว่า การใส่หน้ากากอนามัยสามารถลดการแพร่กระจายของอณูเล็กๆ ที่มีเชื้อโรคปนเปื้อนได้ถึงร้อยละ 80 ควรใส่หน้ากากอนามัยเมื่อจำเป็นต้องออกไปในที่ชุมชนหรือต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่นในที่สาธารณะ เช่น ห้องเรียน ห้องทำงาน ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ โรงแรม โรงพยาบาล รถโดยสาร เครื่องบิน โดยเฉพาะในห้องปรับอากาศ ฯลฯ แต่ไม่จำเป็นต้องใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่คนเดียว หน้ากากอนามัยที่เหมาะจะใช้สำหรับการป้องกันเชื้อไวรัส ได้แก่ หน้ากากอนามัยชนิด N95 ซึ่งมีประสิทธิภาพในการกรองอนุภาคได้ถึง 0.3 ไมครอน หรือ surgical mask ซึ่งราคาจะถูกลงมา สามารถกรองอนุภาคได้ 5 ไมครอน ยกตัวอย่างขนาดของไวรัสโรค SARS จะเป็นอนุภาคเล็กที่มีขนาด 5 ไมครอน อย่างไรก็ตาม อาจพบปัญหาจากการใช้หน้ากากอนามัยชนิด N95 ได้ในผู้ป่วยที่เป็นโรคหอบหืด โรคปอดและทางเดินหายใจ และหญิงตั้งครรภ์ เนื่องจากลมหายใจจะผ่านเข้าออกได้ยากขึ้นเนื่องจากแรงต้านภายใน นอกจากนี้ หน้ากากอนามัยชนิด N95 ออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่ หากนำมาให้เด็กใช้ ต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ คำแนะนำในการใช้หน้ากากอนามัยในพื้นที่เสี่ยง ก็คือ - ล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาดก่อนใส่หน้ากากทุกครั้ง - สังเกตด้านนอกและด้านในของหน้ากากให้ชัดเจน - ข้อสำคัญคือเวลาใส่หน้ากาก ต้องให้กระชับพอดีกับใบหน้า และทดลองหายใจเข้าออกให้เป็นจังหวะหายใจตามปกติ - ไม่ควรนำหน้ากากที่ใช้แล้วกลับมาใช้ซ้ำอย่างเด็ดขาด - ไม่แนะนำให้ใช้หน้ากากอนามัยชนิดกระดาษ เนื่องจากไม่สามารถป้องกันเชื้อไวรัสได้ - พิจารณาใช้หน้ากากอนามัยเมื่อเห็นสมควร หรือคิดว่ามีโอกาสเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อ
ล้างมือบ่อยๆ หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ และไม่ใช้มือแคะจมูกหรือขยี้ตา จะช่วยป้องกันการแพร่กระจายและการติดต่อของโรคได้มากเช่นกัน เพราะมือเป็นตัวกลางนำเชื้อโรคไปสู่ผู้อื่นและรับเชื้อมาสู่ตัวเอง ควรทำความสะอาดมือหลังจากการไอ จาม และเมื่อต้องสัมผัสกับเครื่องใช้สาธารณะ เช่น ที่จับรถเข็นในซูเปอร์มาร์เก็ต เมาส์ในอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ราวรถประจำทาง ลูกบิดประตู ปุ่มลิฟต์ ราวบันได เป็นต้น หากไม่สามารถล้างมือได้ทุกครั้ง อาจหาซื้อเจลแอลกอฮอล์พกติดตัวไว้ ใช้ทำความสะอาดมือโดยไม่ต้องล้างออก แอลกอฮอล์เจลมีประสิทธิภาพฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียได้เกือบ 1,000 เท่า โดยใช้เวลาเพียง 15 วินาที ขณะที่น้ำกับสบู่ฆ่าได้ประมาณ 100 เท่า โดยต้องล้างอย่างน้อย 1 นาที อย่างไรก็ตาม หากมือเปื้อนสิ่งสกปรก เช่น คราบอาหาร หรือคราบสกปรกต่างๆ จะล้างไม่ออกด้วยแอลกอฮอล์เจล ต้องล้างด้วยน้ำกับสบู่เท่านั้น แต่หากไม่มีน้ำและสบู่ การล้างมือด้วยเจลล้างมือก็ยังดีกว่าไม่ล้างเสียเลย ควรระวังไม่ให้เจลล้างมือถูกผิวหนังที่เป็นเยื่อบุต่างๆ หรือผิวหนังที่บอบบาง เช่น ผิวที่เป็นแผล หรือตา เพราะจะทำให้ระคายเคืองได้ อีกปัญหาหนึ่งที่พบได้คือ ใช้แล้วอาจทำให้ผิวแห้งเนื่องจากองค์ประกอบส่วนใหญ่ของเจลล้างมือคือแอลกอฮอล์ ผู้ผลิตจึงแก้ปัญหานี้ด้วยการเติมมอยส์เจอไรเซอร์ลงไป นอกจากการใช้หน้ากากอนามัยและการล้างมือบ่อยๆ แล้ว วิธีดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ก็คือ ไม่ทักทายกันด้วยการจูบหรือสัมผัสมือ ไม่รับประทานอาหารร่วมช้อนและภาชนะเดียวกันกับผู้อื่น จัดสถานที่อยู่อาศัยและที่ทำงานให้อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงการไปในที่ชุมชนหรือสถานที่แออัด รักษาความสะอาดของสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์ รักษาสุขภาพให้แข็งแรงโดยรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักผลไม้ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ที่มา: Mother&Care
0 comments on "ป้องกันตัวให้ปลอดภัยจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009"
Post a Comment